เป็นที่ทราบกันดีว่าการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปนั้นเป็นอันตรายและมักนำไปสู่ความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะสั้น เช่น การบาดเจ็บ การใช้ความรุนแรง แอลกอฮอล์เป็นพิษ หรือพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัย (2) นอกจากนี้ การเกิดโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง ปัญหาสุขภาพจิต และปัญหาสังคมก็เกี่ยวข้องกับการใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิดเช่นกัน (2) ดังนั้น คนหนุ่มสาวจึงเปลี่ยนความชอบในการดื่มจากเบียร์หรือไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำและไม่มี ABV (แอลกอฮอล์ตามปริมาตร) แทนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา (4) ในบล็อกนี้ เราจะพูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้มการบริโภคเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ การแนะนำเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ เทคโนโลยีการผลิต และแนวโน้มในอนาคต

แนวโน้มการบริโภคเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์

            สาเหตุหลักที่ทำให้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำและไม่มี ABV ได้รับความนิยมมากคือนักดื่มเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และบางคนถึงกับยอมรับว่าตนเองมีความนับถือตนเองสูงขึ้นและได้งานมากขึ้นในการทำงานประจำวันเมื่อพวกเขาเลิกดื่ม (3) ในอดีตเครื่องดื่มมักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าสังคม แต่ปัจจุบันผู้คนสามารถรู้จักกันได้ง่ายผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ความจำเป็นของเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จึงลดลง (3) แม้ว่าบางคนจะสารภาพว่าพวกเขากลัวตกกระแส อาจเข้าสังคมน้อย รวมถึงการถูกกีดกัน แต่พวกเขาก็ยังเลือกที่จะไม่ดื่ม (3) อีกเหตุผลหนึ่งคือวัฒนธรรมร้านกาแฟที่เพิ่มขึ้น และกาแฟถือได้ว่าเป็นวิถีชีวิตของบางคน มีรายงานว่าเกือบครึ่งหนึ่ง (46%) ของประชากรออสเตรเลียดื่มกาแฟ และชาวออสเตรเลีย 3 ใน 4 เปิดเผยว่าพวกเขาดื่มกาแฟอย่างน้อยหนึ่งแก้วต่อวัน (16)

            ในตอนแรก ชาเลนจ์ ‘งดเหล้าเข้ามกรา’ ‘งดเหล้าเข้ากรกฎาคม’ หรือแม้แต่ ‘กันยาพาสร่าง’ สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากงดแอลกอฮอล์ในเดือนเหล่านี้ พวกเขารู้สึกว่าจริง ๆ แล้วทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งใจที่จะเลิกดื่มต่อไปและมีการตระหนักด้านสุขภาพมากขึ้น (9) เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ากระแสเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ลดลง โดยเครื่องดื่มพร้อมดื่มมีหลากหลายรสชาติตามที่ผู้บริโภคต้องการ น่าสนใจ และรสชาติใหม่ ๆ เป็นตัวเลือกอันดับแรกเมื่อซื้อเครื่องดื่ม ทั้งยังมีความสะดวกสบาย เช่น ค็อกเทล ทูโก และบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (11)

เบียร์ 0.0 แอลกอฮอล์ คืออะไร

            มีความแตกต่างบางประการระหว่างเบียร์แอลกอฮอล์ 0% และเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เบียร์ที่ ‘ไม่มีแอลกอฮอล์’ มักจะมีร่องรอยของแอลกอฮอล์จากกระบวนการหมัก ตัวอย่างเช่น ในสหราชอาณาจักร เครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ 0.5% สามารถติดฉลากว่า ‘ปราศจากแอลกอฮอล์’ หรือ ‘ไม่มีแอลกอฮอล์’ ได้ แต่จากระเบียบข้อบังคับของ USFDA เครื่องดื่ม 0.5% ABV (แอลกอฮอล์โดยปริมาตร) จะต้องติดฉลากเป็น ‘ปริมาณแอลกอฮอล์จำนวนเล็กน้อย’ (1) เบียร์ 0.0 แอลกอฮอล์ หรือเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์เป็นเบียร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ 100% และไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลย (6) เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้และยังเหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารคีโตเจนิกเนื่องจากต้องรักษาคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่น้อยมาก (5) ผู้บริโภคกล่าวว่าพวกเขาชอบเบียร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์โดยสิ้นเชิงเพราะมีรสชาติใกล้เคียงกับเบียร์มาตรฐานในขณะที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าและมีแคลอรีต่ำกว่า (7)

เทคโนโลยีการผลิต

            มีเทคโนโลยีการผลิตมากมาย อาทิ

            1.การกลั่นด้วยสุญญากาศ – เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แอลกอฮอล์ถูกทำให้ร้อนจนระเหยโดยมีจุดเดือดต่ำภายใต้สภาวะสุญญากาศ ดังนั้นจึงป้องกันการเสื่อมสภาพของสารให้กลิ่นรสที่มักจะมีจุดเดือดสูงกว่าแอลกอฮอล์ (8)

            2.การกรองออสโมซิสแบบผันกลับ หรือการกรองผ่านเยื่อ คือการใช้ความดันและความร้อนสูงเพื่อกำจัดแอลกอฮอล์ โดยได้ผลผลิตและรสชาติที่ดีกว่าการสกัดด้วยความร้อนแบบดั้งเดิม เนื่องจากปริมาณแอลกอฮอล์จะถูกกำจัดออกจากการกรอง ในขณะที่สารแต่งกลิ่นจะยังคงอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของไส้กรอง แล้วนำมารวมกันใหม่ในภายหลัง (8, 14, 17)

            3.Cold Contact Fermentation (CCF) หรือ Cold Contact Process (CCP) วิธีนี้สามารถใช้ในการผลิตเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์ต่ำหรือเบียร์ 0.0 โดยใช้การหมักที่อุณหภูมิต่ำและระยะเวลาการหมักที่ยาวนาน (13)

แนวโน้มในอนาคต

            ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตจำเป็นต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าและเตรียมผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ในปี 2566 ความต้องการเบียร์ 0.0 แอลกอฮอล์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยมีมูลค่าตลาด 22,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 บริษัทต่าง ๆ เช่น AB InBev และ Heineken กำลังเปิดตัวเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ใหม่ (15) ยอดขายเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ของ Athletic Brewing เพิ่มขึ้น 70% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากจำนวนผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งเวลาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้จำกัดแค่ช่วงสุดสัปดาห์อีกต่อไป (12) เราจะเห็นว่าความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเบียร์ 0.0 แอลกอฮอล์ นั้นสูงมาก โดยมีมูลค่าตลาดที่คาดการณ์ไว้ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2576 และเพิ่มขนาดตลาดเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2566 (10)

            เราได้พูดคุยกันว่าโรคระบาดส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารอย่างไร และได้เห็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เริ่มมีบทบาท สิ่งสำคัญคือต้องติดตามแนวโน้มเพื่อให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหารได้

เอกสารอ้างอิง

1.(2021). What’s the Difference Between 0.0 and 0.5 Proof? Deciphering Alcohol-Free and Nonalcoholic Drinks. Retrieved March 10, 2023, from https://boisson.co/blogs/news/what-s-the-difference-between-0-0-and-0-5-proof-deciphering-alcohol-free-and-nonalcoholic-drinks#:~:text=Here%20in%20the%20United%20States,alcoholic%20and%20never%20alcohol%2Dfree.

2.(2022). Alcohol Use and Your Health. Retrieved March 10, 2023, from https://www.cdc.gov/alcohol/fact-sheets/alcohol-use.htm

3.Conroy, D. (2020). Why young people are drinking less – and what older drinkers can learn from them. Retrieved March 10, 2023, from https://theconversation.com/why-young-people-are-drinking-less-and-what-older-drinkers-can-learn-from-them-133020

4.Cottong, A. (2021). 2022 Alcohol Trends: What Consumers are Drinking Now. Retrieved March 10, 2023, from https://get.doordash.com/en-us/blog/alcohol-trends

5.(2020a). Can you drink alcohol on the keto diet? Retrieved March 10, 2023, from https://www.delicious.com.au/drinks/article/can-you-drink-alcohol-keto-diet/mcjvobg4

6.(2020b). What is zero alcohol beer? Retrieved March 10, 2023, from https://www.delicious.com.au/drinks/beer/article/zero-alcohol-beer/h9g20j8p

7.(2023). Differences between alcoholic and non-alcoholic beers | Drinkaware. Retrieved March 10, 2023, from https://www.drinkaware.co.uk/facts/alcoholic-drinks-and-units/difference-between-alcoholic-and-alcohol-free-beers

8.Free Beer. (2022). How is Non Alcoholic Beer Made? | Free Beer. Retrieved March 10, 2023, from https://free-beer.co.uk/how-is-non-alcoholic-beer-made/

9.Fulton, A., & Aubrey, A. (2019). Breaking The Booze Habit, Even Briefly, Has Its Benefits. Retrieved March 10, 2023, from https://www.npr.org/sections/health-shots/2019/06/23/732876026/breaking-the-booze-habit-even-briefly-has-its-benefits

10.Jha, S. N. (2022). Non-Alcoholic Beer Market. Retrieved March 10, 2023, from https://www.factmr.com/report/4473/non-alcoholic-beer-market

11.Kerschbaumer, C. (2023). Alcoholic beverages: these are the trends in 2023. Retrieved March 10, 2023, from https://www.austriajuice.com/news-blog/alcoholic-beverages-trends

12.Morgan, D. (2022). A new trend is brewing: Nonalcoholic beers & mocktails. Retrieved March 10, 2023, from https://www.cbsnews.com/news/a-new-trend-is-brewing-nonalcoholic-beers-mocktails/

13.Pilarski, D. W., & Gerogiorgis, D. I. (2020). Progress and modelling of cold contact fermentation for alcohol-free beer production: A review. Journal of Food Engineering, 273, 109804. https://doi.org/10.1016/j.jfoodeng.2019.109804

14.Swiers, A. (2022). The 2 Ways Low-Alcohol Beer Is Manufactured. Retrieved March 10, 2023, from https://www.tastingtable.com/878446/the-2-ways-low-alcohol-beer-is-manufactured/

15.Thomas, I. (2022). Non-alcoholic beer to continue growing in 2023, Athletic Brewing Company CEO says. Retrieved March 10, 2023, from https://www.cnbc.com/2022/12/30/non-alcoholic-beer-set-to-continue-to-grow-in-2023.html

16.Unilever Food Solutions. (2023). The rise of coffee culture and new coffee trends. Retrieved March 10, 2023, from https://www.unileverfoodsolutions.com.au/chef-inspiration/cafe360/modern-menus/the-rise-of-coffee-culture-and-new-coffee-trends.html

17.Wong, M. (2023). Alcohol-Free Beer: How Is It Made? Retrieved March 10, 2023, from https://impossibrew.co.uk/blogs/journal/how-its-made-alcohol-free-beer