ITO Thailand Hygiene Blog

Jan 09 2025

เปรียบเทียบความแตกต่าง ลูกกลิ้ง – เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม – แอร์ชาวเวอร์

เปรียบเทียบความแตกต่าง ลูกกลิ้ง – เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม – แอร์ชาวเวอร์

คำถามที่พบเจอบ่อย องค์กรของท่าน เหมาะกับอุปกรณ์ไหนกันแน่?

            ฝุ่น เส้นผม เส้นขน เศษด้าย เป็นการปนเปื้อนทางกายภาพที่พบได้บ่อยในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งนอกจากการเปลี่ยนชุด รองเท้า ใส่หมวกและชุดคลุมแล้ว การกำจัดสิ่งปนเปื้อนด้วยวิธีต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่จำเป็นในการลดความเสี่ยงการปนเปื้อน ซึ่งในบรรดาอุปกรณ์ที่ใช้ในขั้นตอนนี้ เช่น ลูกกลิ้ง เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม ห้องเป่าลมหรือแอร์ชาวเวอร์ มักถูกเปรียบเทียบกันอยู่เสมอ ว่าอันไหนดี อันไหนมีความจำเป็น ต้องใช้ซ้ำซ้อนกันหรือไม่ อย่างไร

            •จุดประสงค์

            จุดประสงค์ในการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ บางท่านอาจจะมองว่าเป็นสิ่งเดียวกัน ใช้แทนกันได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ลูกกลิ้ง กับ เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม มีวัตถุประสงค์ในการกำจัดฝุ่นหยาบ หรือสิ่งปนเปื้อนขนาดใหญ่ ที่มองเห็นได้ชัดเจน ซึ่งสิ่งปนเปื้อนเหล่านั้นจะถูกเก็บออกไว้ในแผ่นกาว หรือถุงกรอง ในขณะที่ ตู้แอร์ชาวเวอร์ มีจุดประสงค์ในการทำความสะอาดสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็กกว่าไปจนถึงระดับไมครอน ทั้งบนตัวพนักงานและอากาศภายในห้อง โดยการเป่าอากาศที่สะอาดลงบนตัวพนักงานเพื่อไล่สิ่งปนเปื้อน จึงนิยมใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนเข้าคลีนรูม ซึ่งสิ่งปนเปื้อนจะถูกเก็บอยู่ในแผ่นกรอง HEPA  ทั้งนี้ หากมีสิ่งปนเปื้อนขนาดใหญ่ ตกในห้องเป่าตัว และไม่มีมาตรการเพิ่มเติม (เช่น การติดแผ่นดักฝุ่นด้านข้าง (Dust catcher)  และที่พื้น (Step mat) การวางแผนรอบการทำความสะอาดที่ถี่เพียงพอ) ก็อาจทำให้สิ่งปนเปื้อนมีโอกาสปลิวกลับไปติดที่พนักงานคนอื่น ๆ ได้ ดังนั้น จึงควรมีขั้นตอนการทำขจัดสิ่งปนเปื้อนเบื้องต้น ด้วยลูกกลิ้งหรือเครื่องดูด ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการเป่าตัว รวมไปถึงมาตรฐานในการดูแลห้องแอร์ชาวเวอร์ที่เหมาะสมด้วย

            •พื้นที่ที่ใช้

            เป็นที่แน่นอนว่า ลูกกลิ้งใช้พื้นที่น้อยที่สุด และสามารถโยกย้ายไปยังจุดอื่น ๆ หรือแม้แต่เพิ่มขั้นตอนการกลิ้งตัวในระหว่างการทำงานได้อีกด้วย เนื่องจากมีน้ำหนักเบา

            กรณีเครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม ต้องมีบริเวณสำหรับตั้งหรือแขวนผนัง และมีบริเวณสำหรับเสียบปลั๊ก แต่มีข้อดีคือ สิ่งสกปรกทั้งหมด จะถูกเก็บไว้ในถุงกรอง ไม่ต้องมีบริเวณถังขยะ และสามารถกำหนดให้พนักงานทุกคนใช้เครื่องในเวลาที่เท่า ๆ กันได้ ด้วยฟังก์ชันการตั้งเวลา (อ่านเพิ่มเติม)

            ส่วนแอร์ชาวเวอร์ ใช้พื้นที่มากที่สุด เนื่องจากเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ และต้องมีการเสียบไฟฟ้าเช่นเดียวกัน ซึ่งแอร์ชาวเวอร์จะตั้งอยู่บริเวณทางเข้า ทำให้บังคับทุกคนที่จะเข้าสู่โซนสะอาด ต้องผ่านมาตรการนี้ โดยสามารถออกแบบแอร์ชาวเวอร์ได้ตามขนาดพื้นที่ และความจำเป็นของจำนวนพนักงาน เพื่อลดปัญหาการแออัดของการสัญจรในช่วงเวลาเข้าออก

            •ค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษา

            ลูกกลิ้งชนิดแผ่นกาว ถึงแม้การลงทุนครั้งแรกจะต่ำที่สุด แต่จำเป็นต้องสต็อกแผ่นกาวจำนวนมาก ก่อขยะปริมาณมากเช่นกัน หากต้องการปรับปรุงลดค่าใช้จ่ายและลดขยะ อาจพิจารณาเป็นตัวเลือกลูกกลิ้งชนิดล้างได้ (อ่านเพิ่มเติม)

            เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม มีการลงทุนเบื้องต้นสูงกว่าลูกกลิ้ง มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าไฟฟ้าเล็กน้อย และการเปลี่ยนถุงกรองตามระยะเวลาการใช้งาน ในส่วนของมอเตอร์ ปัจจุบันเป็นมอเตอร์ชนิดไร้แปรงถ่าน ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมอเตอร์ในช่วงระยะเวลาของอายุอุปกรณ์ ทำให้มีความคุ้มค่าต่อการลงทุนมากกว่าเครื่องดูดฝุ่นและเส้นผมรุ่นเก่า

            แอร์ชาวเวอร์ มีการลงทุนเบื้องต้นสูงที่สุด มีค่าไฟฟ้าในระหว่างการใช้งาน มีการเปลี่ยนแผ่นกรองตามเวลาที่กำหนด และควรมีการตรวจเช็คประจำปี

            •การเทรนพนักงาน

            ลูกกลิ้งกาว เป็นอุปกรณ์ที่ควบคุมได้ยากว่าพนักงานใช้ตามที่กำหนดมาตรการไว้หรือไม่ ตั้งแต่ มีการใช้งานหรือไม่ ท่าทางการกลิ้งเป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่ ไปจนถึงมีการการฉีกเปลี่ยนแผ่นกาวตามข้อกำหนดหรือไม่ ทำให้ต้องมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น การมีตำแหน่งพนักงานมากลิ้งให้ หรือการเฝ้าสังเกตพฤติกรรม เป็นต้น

            ส่วนเครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม จำเป็นต้องมีการฝึกท่าทางการใช้งานเล็กน้อยในช่วงแรก เพื่อให้พนักงานชินต่อการใช้งาน แต่เครื่องนี้มีข้อดีคือสามารถตั้งระยะเวลาเพื่อให้พนักงานใช้ตามเวลาที่กำหนดได้ เพื่อเป็นการเพิ่มมาตรฐานให้พนักงานใช้เครื่องมืออย่างตั้งใจมากขึ้น

            แอร์ชาวเวอร์ อาจต้องมีการกำหนดการหมุนตัวเล็กน้อย แต่มั่นใจได้ว่าพนักงานต้องมีการผ่านขั้นตอนนี้ 100% ทำให้สามารถช่วยยกระดับมาตรฐานความสะอาดขององค์กรได้อย่างชัดเจน

เปรียบเทียบการใช้ ลูกกลิ้ง – เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม – แอร์ชาวเวอร์ ในอุตสาหกรรมอาหาร

            คำถามที่พบเจอบ่อยคือ องค์กรของท่านเหมาะกับการใช้ลูกกลิ้ง, เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม หรือแอร์ชาวเวอร์มากกว่ากัน การเปรียบเทียบอุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญ เนื่องจากแต่ละอุปกรณ์มีจุดประสงค์และการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนทางกายภาพ เช่น เส้นผม ฝุ่น หรือเศษเส้นขน ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และสุขภาพของผู้บริโภค

            1.จุดประสงค์

            •ลูกกลิ้ง

             ลูกกลิ้งมีวัตถุประสงค์หลักในการกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่มองเห็นได้ชัด เช่น เส้นผมและฝุ่นหยาบ โดยการใช้แผ่นกาวติดสิ่งปนเปื้อนเหล่านี้ออกจากพื้นผิวของพนักงานหรืออุปกรณ์ ลูกกลิ้งชนิดล้างน้ำก็เป็นทางเลือกที่ดีในกรณีที่ต้องการลดขยะจากแผ่นกาวที่ใช้แล้ว

            •เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม

            อุปกรณ์นี้ใช้สำหรับกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่เป็นเส้นใยและฝุ่นละเอียดที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยเครื่องดูดฝุ่นจะเก็บสิ่งปนเปื้อนทั้งหมดไว้ในถุงกรอง ช่วยให้กระบวนการทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

            •แอร์ชาวเวอร์

            มีจุดประสงค์ในการทำความสะอาดสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็กที่สามารถลอยอยู่ในอากาศ เช่น ฝุ่นระดับไมครอน โดยการเป่าอากาศที่สะอาดลงบนตัวพนักงานเพื่อขับไล่สิ่งปนเปื้อนเหล่านี้ ซึ่งนิยมใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนเข้าสู่พื้นที่คลีนรูม โดยการเป่าอากาศที่สะอาดลงบนตัวพนักงานเพื่อไล่สิ่งปนเปื้อน จึงนิยมใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนเข้าคลีนรูม ซึ่งสิ่งปนเปื้อนจะถูกเก็บอยู่ในแผ่นกรอง HEPA  ทั้งนี้ หากมีสิ่งปนเปื้อนขนาดใหญ่ ตกในห้องเป่าตัว และไม่มีมาตรการเพิ่มเติม (เช่น การติดแผ่นดักฝุ่นด้านข้าง (Dust catcher) และที่พื้น (Step mat) การวางแผนรอบการทำความสะอาดที่ถี่เพียงพอ) ก็อาจทำให้สิ่งปนเปื้อนมีโอกาสปลิวกลับไปติดที่พนักงานคนอื่น ๆ ได้ ดังนั้น จึงควรมีขั้นตอนการทำขจัดสิ่งปนเปื้อนเบื้องต้น ด้วยลูกกลิ้งหรือเครื่องดูด ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการเป่าตัว รวมไปถึงมาตรฐานในการดูแลห้องแอร์ชาวเวอร์ที่เหมาะสมด้วย

            2.พื้นที่ที่ใช้

            •ลูกกลิ้ง

             มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถใช้ในจุดต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายและใช้พื้นที่น้อย เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้ายในระหว่างการทำงาน อย่างไรก็ตาม จำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมจุดทิ้งขยะ สำหรับการทิ้งแผ่นกาวใช้แล้ว และมีมาตรการในการควบคุมบังคับใช้ เพื่อให้พนักงานกลิ้งแผ่นกาวที่เหนียวมากเพียงพอทุกครั้ง กรณีเป็นลูกกลิ้งชนิดล้างน้ำได้ อาจต้องมีการจัดเตรียมอุปกรณ์เก็บฝุ่นจากลูกกลิ้ง (D quick) หรือจุดบริเวณล้างและผึ่งแห้ง

            •เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม

            อุปกรณ์นี้ต้องมีพื้นที่สำหรับตั้งหรือแขวนผนัง และที่สำหรับเสียบปลั๊กไฟ แต่ก็ยังสามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดอื่น ๆ ได้ง่าย โดยสิ่งสกปรกทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในถุงกรอง

            •แอร์ชาวเวอร์

            ใช้พื้นที่มากที่สุด เนื่องจากเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องติดตั้งถาวร โดยมักจะตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของพื้นที่คลีนรูม เพื่อให้ทุกคนต้องผ่านมาตรการนี้

            3.ค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษา

            •ลูกกลิ้ง

            การลงทุนเบื้องต้นต่ำที่สุด แต่จำเป็นต้องมีการสต็อกแผ่นกาวที่ใช้แล้วอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งก่อให้เกิดขยะมากขึ้น หากต้องการลดค่าใช้จ่ายและขยะ อาจพิจารณาลูกกลิ้งชนิดล้างน้ำ

            •เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม

            การลงทุนเบื้องต้นสูงกว่าลูกกลิ้ง โดยมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าไฟฟ้าและการเปลี่ยนถุงกรองตามระยะเวลาใช้งาน ในส่วนของมอเตอร์ ปัจจุบันเป็นมอเตอร์ชนิดไร้แปรงถ่าน ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมอเตอร์ในช่วงระยะเวลาของอายุอุปกรณ์ ทำให้มีความคุ้มค่าต่อการลงทุนมากกว่าเครื่องดูดฝุ่นและเส้นผมรุ่นเก่า

            •แอร์ชาวเวอร์

            การลงทุนเบื้องต้นสูงสุด และต้องมีการเปลี่ยนแผ่นกรอง HEPA ตามระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงการตรวจสอบประจำปีเพื่อให้มั่นใจว่าระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

            4.การเทรนพนักงาน

            •ลูกกลิ้ง

            การควบคุมการใช้งานของลูกกลิ้งอาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าพนักงานใช้ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้หรือไม่ รวมไปถึงท่าทาง และ การฉีกแผ่นกาว ดังนั้นจำเป็นต้องมีการติดตามและตรวจสอบการใช้งาน หรืออาจกำหนดผู้รับผิดชอบใช้งานให้กับพนักงานอื่น ๆ

            •เครื่องดูดฝุ่นและเส้นผม

            ต้องมีการฝึกพนักงานเกี่ยวกับวิธีการใช้งานในช่วงแรก แต่ข้อดีคือสามารถตั้งระยะเวลาเพื่อให้พนักงานใช้ตามเวลาที่กำหนดเป็นมาตรฐานได้ด้วยฟังก์ชันการตั้งเวลา (อ่านเพิ่มเติม)

            •แอร์ชาวเวอร์

            ต้องมีการกำหนดการหมุนตัวเล็กน้อย แต่มั่นใจได้ว่าพนักงานจะต้องผ่านขั้นตอนนี้ 100% ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานความสะอาดในองค์กรได้อย่างชัดเจน

สรุป

            การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับองค์กรขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น งบประมาณ ความสะอาดที่ต้องการ และพื้นที่การใช้งาน อุปกรณ์ทั้งสามมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงการปนเปื้อนในอุตสาหกรรมอาหาร โดยการใช้ร่วมกันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและควบคุมความปลอดภัยอาหารได้ดียิ่งขึ้น

            หากท่านมีความสนใจในอุปกรณ์เหล่านี้ สามารถ ติดต่อเรา เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารในประเทศไทย

Related Post